เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 514 ร่างกายย่อมซื่อสัตย์
Bookmark

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 514 ร่างกายย่อมซื่อสัตย์

  • อ่านเรื่อง เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 514 ร่างกายย่อมซื่อสัตย์ ได้ที่ Novel-TT.

    รายชื่อตอน

    เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 514 ร่างกายย่อมซื่อสัตย์

    บทที่ 514 ร่างกายย่อมซื่อสัตย์

    [ติ๊ง! ยินดีด้วย เย็บซ่อมแซมตับสำเร็จ เป็นการเย็บซ่อมแซมที่เหนือกว่าระดับตนเอง ทำให้ท่านได้รับรางวัลมากมายดังต่อไปนี้: วิธีผ่าตัดแบบ JHVI (ระดับปรมาจารย์)!]

    เมื่อเฉินชางได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ชะงักไปเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจนัก!

    วิธีการผ่าตัดนี้คือรางวัลมากมายที่ผมได้หรือ

    มันมากตรงไหนเนี่ย แค่ใส่ตัวอักษรภาษาอังกฤษเข้ามาสี่ตัวก็ถือว่ามากแล้วเหรอ

    เฉินชางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าตัวอักษรภาษาอังกฤษทั้งสี่ตัวนี้หมายถึงการผ่าตัดอะไร หากจะฝืนอธิบายให้ได้สักหน่อยล่ะก็…แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกยิ่งใหญ่แล้ว

    [ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับทักษะการผ่าตัด JHVI!]

    ก็ได้ เดี๋ยวผมจะกลับไปหาข้อมูลก็แล้วกัน ยังไงซะฟังก็ไม่รู้เรื่อง…

    ตอนนี้เฉินชางรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักศึกษาตัวน้อยที่ระบบมอบรางวัลให้เป็นทฤษฎีสัมพันธภาพ จึงได้แต่จ้องมองปกหนังสือด้วยท่าทางงุนงงว่าอะไรคือทฤษฎีสัมพันธภาพกันแน่

    ……

    ……

    ภารกิจของคืนนี้ค่อนข้างยาก มีผู้ป่วยสามคน สองคนบาดเจ็บสาหัส ส่วนอีกคนหนึ่งบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ร้ายแรง

    ตอนนี้ช่วยชีวิตสำเร็จคนหนึ่งแล้ว ขณะที่หวังเซี่ยงจวินกำลังจะเดินไปที่ห้องผ่าตัดของพวกเมิ่งซีก็พบว่าเมิ่งซี เก่อฮว๋ายแล้วคนอื่นๆ เดินออกมาจากห้องผ่าตัดข้างๆ พอดี

    หวังเซี่ยงจวินรีบถามไปว่า “หัวหน้าเมิ่ง การผ่าตัดเป็นยังไงบ้างครับ”

    เมิ่งซีพยักหน้า “หัวหน้าหวัง การผ่าตัดราบรื่นมากค่ะ! แต่…ส่งตัวไปห้องไอซียูแล้วค่ะ ตอนนี้อาการยังน่าเป็นห่วง หลักๆ คือหลอดเลือดแดงใหญ่เสียหาย ส่งผลไปถึงช่องอก…”

    หวังเซี่ยงจวินผ่อนลมหายใจแล้วพยักหน้า อย่างน้อยก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแล้ว!

    อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาจะมาผ่อนคลาย ผู้ป่วยสองคนถูกส่งตัวไปสังเกตอาการที่ห้องไอซียูทั้งหมด

    หลังจากทำงานมานาน หวังเซี่ยงจวินก็คลายใจลงได้ในที่สุด เขาเห็นเฉินชางเดินไปแล้วจึงรีบวิ่งเข้าไปหา! มองเฉินชางด้วยสายตาเปี่ยมอารมณ์และซาบซึ้งใจ

    จากนั้นก็ฉีกยิ้มสว่างไสวออกมา “เสี่ยวเฉิน คิดไหมครับว่าพวกเราสองคนมีวาสนาต่อกันมากจริงๆ!”

    เมิ่งซีและเฉียนเลี่ยงมีสีหน้างุนงง วาสนาจากไหนของเขาล่ะนั่น

    เฉินชางคิดถึงวิธีการผ่าตัดระดับปรมาจารย์และยาฉุกเฉินขั้นปรมาจารย์ที่เขากำลังจะได้รับ คิดว่าตนมีวาสนามากจริงๆ ถ้าหาก…หัวหน้าหวังมอบทักษะให้ตนอีกมากๆ วาสนานี้จะต้องลึกล้ำเข้าไปอีกแน่นอน!

    คิดแล้วเฉินชางก็พยักหน้ายิ้มๆ “ใช่ครับ! ได้รู้จักกับหัวหน้าหวังถือเป็นเกียรติของผมจริงๆ ครับ”

    หวังเซี่ยงจวินได้ยินดังนั้นก็มองไปที่เฉียนเลี่ยงแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว! ฮ่าๆ ผมก็รู้สึกถูกชะตากับเสี่ยวเฉินมากเลยนะครับ”

    พูดกันถึงตรงนี้ หวังเซี่ยงจวินก็หัวเราะออกมา “เสี่ยวเฉิน คุณคิดว่าแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลตงต้าของพวกเราเป็นยังไงบ้างครับ สนใจมาศึกษาพัฒนาตัวเองอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ”

    เฉียนเลี่ยงกลอกตามองบน มองไม่ออกหรือไง คนอื่นเขาแค่พูดไปตามมารยาทเท่านั้นแหละ! ได้คืบจะเอาศอกจริงๆ!

    เห็นหวังเซี่ยงจวินทำตัวเป็นนักล่าจะกินไม่ให้เหลือกระดูกเช่นนั้น เฉียนเลี่ยงพลันรู้สึกว่าใบหน้าของตนจะบางเกินไปหรือไม่

    เฉินชางยิ้ม “ผมเชื่อว่าในอนาคตต้องมีโอกาสร่วมงานกับโรงพยาบาลตงต้าแน่นอนครับ!”

    เมื่อหวังเซี่ยงจวินได้ยินคำพูดของเฉินชางก็ทอดถอนใจอย่างปลงตก เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น…

    อย่างไรก็ตาม…เขาสงสัยจริงๆ ว่าโรงพยาบาลอันดับสองมีเสน่ห์อะไรถึงดึงดูดเฉินชางได้เช่นนี้ เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ทั้งด้านทรัพย์สิน สวัสดิการ หรือโอกาสในการก้าวหน้า โรงพยาบาลตงต้าก็ล้วนแล้วแต่ดีกว่าโรงพยาบาลอันดับสองทั้งสิ้น!

    ปล่อยให้บุคคลผู้มีพรสวรรค์อยู่ในมือไอ้หลี่หน้าดำเช่นนี้ จะคิดอย่างไรก็เสียเปล่าจริงๆ!

    หวังเซี่ยงจวินคิดว่าวันหลังควรไปสำรวจเส้นทางที่โรงพยาบาลอันดับสองเสียแล้ว ดูสักหน่อยว่าจะเจออะไรพิเศษหรือไม่

    เมิ่งซีมองเฉินชางด้วยสีหน้าแปลกใจ แม้ไม่รู้ว่าเขาทำอะไร แต่ต้องเกี่ยวกับการช่วยชีวิตผู้ป่วยแน่นอน!

    คิดแล้วในใจของเมิ่งซีก็เกิดความสงสัยขึ้นมาโดยพลัน ตกลงว่าเป็นการผ่าตัดแบบไหนกันแน่

    ทว่าตอนนี้เก่อฮว๋ายสงสัยยิ่งกว่าใคร ไม่ทราบว่าเจ้าเฉินชางคนนี้มีความสามารถขนาดไหนกัน หัวหน้าแผนกทั้งหลายถึงได้พากันเข้าไปติดพัน…

    ฟั่นไท่เดินเข้ามาพอดี เก่อฮว๋ายจึงรีบยื่นหน้าเข้าไปถาม “เหล่าฟั่น เมื่อกี้ผ่าตัดอะไรน่ะ”

    ตอนนี้ฟั่นไท่ก็ประหลาดใจในตัวเฉินชางมากเช่นกันจึงไม่ได้ตอบคำถามของเก่อฮว๋าย แต่ถามกลับไปตรงๆ ว่า “เก่อฮว๋าย หมอหนุ่มคนเมื่อกี้เป็นหมอของแผนกพวกคุณหรือ”

    เก่อฮว๋ายพยักหน้า “ใช่ครับ เขาเป็นนักศึกษาปริญญาโทของหัวหน้าเมิ่ง อยู่ปีหนึ่งแล้ว!”

    ฟั่นไท่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะออกมา “ให้ตายเถอะ ล้อเล่นหรือไง ผมดูโง่เหรอ หมอเฉินเป็นนักศึกษาปริญญาโทปีหนึ่งเนี่ยนะ บอกว่าคุณเป็นนักศึกษาปริญญาโทปีหนึ่งซะเองผมยังจะเชื่อมากกว่าอีก!”

    เก่อฮว๋ายชะงักไป แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่คุณดูโง่ด้วยล่ะ

    ฟั่นไท่กล่าวต่อไป “อย่ามาล้อเล่นแถวนี้!”

    เก่อฮว๋ายรู้สึกอับจนคำพูดขึ้นมาทันที “ล้อเล่นอะไรกันล่ะครับ ผมพูดจริง ตกลงผ่าตัดอะไรกันแน่ รีบบอกมาเถอะ!”

    ฟั่นไท่เห็นเก่อฮว๋ายดูไม่เหมือนกำลังล้อเล่นก็เบิกตากว้างขึ้นมาทันที สีหน้าอัดแน่นไปด้วยความตื่นตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ “โอ้โห! หมอเฉินเป็นนักศึกษาปริญญาโทปีหนึ่งจริงๆ น่ะเหรอ รู้หรือเปล่าว่าเมื่อกี้เขาผ่าตัดอะไร”

    เก่อฮว๋ายส่ายหน้า ส่วนเมิ่งซีก็เขยิบเข้ามาใกล้ๆ ตอนนี้เธอยิ่งอยากรู้อยากเห็นเรื่องเฉินชางมากเข้าไปอีก!

    ฟั่นไท่กล่าวด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม “หมอเฉินผ่าตัดภาวะตับแตกที่มีอาการซับซ้อน! ตั้งแต่ต้นจนจบเลย เขาใช้มือเปล่าหยุดเลือดด้วย สุดยอดไปเลย!”

    เมื่อเขาพูดออกมาเช่นนี้ สองคนที่ฟังยังจะพูดอะไรได้อีก!

    เก่อฮว๋ายมองฟั่นไท่ด้วยสีหน้าสงสัย “คุณเห็นผมดูโง่มากเหรอ”

    ฟั่นไท่ “…”

    “ผมพูดจริงๆ ไม่เชื่อก็ไปถามเหวินชิงสิ!”

    เยว่เหวินชิงมองเก่อฮว๋ายด้วยสีหน้ากระตือรือร้น “เสี่ยวเก่อ คุณมีเบอร์โทรหมอเฉินหรือเปล่า เขาห้ามเลือดด้วยมือเปล่า สุดยอดจริงๆ ผ่าตัดแบบนั้นได้นี่ ฝีมือพอๆ กับหัวหน้าเฉียนเลยนะ!”

    เก่อฮว๋ายถึงกับเบิกตากว้าง “คุณจะบอกว่า…หมอเฉินผ่าตัดภาวะตับแตกที่มีอาการซับซ้อนได้จริงๆ หรือ”

    เยว่เหวินชิงตอบอย่างกระตือรือร้น “จะเรียกว่าผ่าตัดได้ได้ยังไง แบบนั้นต้องเรียกว่าเป็นผลงานความสำเร็จระดับปรมาจารย์แล้ว”

    เก่อฮว๋ายคิดว่าคืนนี้ตนต้องนอนไม่หลับแน่นอน บางทีอาจจะปัญญาอ่อนไปเลยก็ได้…

    ต้องขอลางานกับอาจารย์ซย่าก่อนหรือเปล่า…

    ทว่าพอคิดถึงสายตาที่หัวหน้าซย่าใช้มองเฉินชางในคืนนี้แล้ว เก่อฮว๋ายก็รีบส่ายหน้า อย่าลางานเลยดีกว่า ถ้าหาก…อาจารย์ไม่พอใจแล้วถือโอกาสเตะเขาออกจากสำนักขึ้นมา แบบนั้นคงขายหน้าแย่!

    บางที…ตอนนี้อาจมีเพียงสองคนที่เข้าใจความรู้สึกเก่อฮว๋าย คนหนึ่งคือเฉียนหลิน อีกคนคือเพื่อนนักเรียน A

    เมิ่งซีมองแผ่นหลังของเฉินชางด้วยท่าทางใคร่ครวญ ในดวงตาอัดแน่นไปด้วยความแปลกใจระคนสงสัย นักเรียนของเธอคนนี้ดูเหมือนว่า…จะยอดเยี่ยมอยู่บ้าง!

    คิดจบ จู่ๆ เมิ่งซีก็รู้สึกเหมือนเสื้อรัดแน่นขึ้นอีกแล้ว อึดอัดจริงๆ …

    ……

    ……

    ทางด้านเฉินชาง เขากำลังเดินเคียงคู่ไปกับเฉียนเลี่ยง ออกไปจากห้องฉุกเฉินแล้ว

    ทันใดนั้นเฉินชางก็ได้ยินเสียงระบบแจ้งเตือนดังขึ้น

    [ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของเมิ่งซี +10!]

    เฉินชางชะงักไปโดยพลัน นี่ผม…ทำอะไรอีกล่ะ

    เพิ่มค่าความรู้สึกดีได้ด้วยเหรอ

    นี่ทำให้เฉินชางผู้เป็นเสมือนคลังเก็บทักษะของคุณเมิ่งมีสีหน้ายินดี

    ไม่เลวๆ ค่าความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นอีกสิบแต้มแล้ว คราวที่แล้วเอาไปแลก [ทักษะผ่าตัดซ่อมแซมหลอดเลือดเอออร์ตาส่วนลง] ผลาญค่าความรู้สึกดีไปสามสิบแต้ม ตอนนี้อย่างน้อยก็กลับมาอยู่ที่สี่สิบแต้มแล้ว

    เฉียนเลี่ยงมองเฉินชาง อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดไป

    ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าโชคชะตาช่างเล่นตลกกับมนุษย์เราจริงๆ ตอนแรกเขาไม่เห็นความสำคัญของเฉินชาง ส่วนตอนนี้…มาไกลถึงขั้นนี้แล้ว หากตอนนี้เฉินชางจะหาอาจารย์ผู้ชี้แนะก็คงไม่มองตนเช่นกัน

    คิดแล้วเหล่าเฉียนก็ทอดถอนใจออกมา

    มนุษย์เราไม่ควรเย่อหยิ่งเลยจริงๆ เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้ว

    คุณอาจจะชอบ

    Comments

    แสดงความคิดเห็น