เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 506 เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
Bookmark

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 506 เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

  • อ่านเรื่อง เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 506 เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ได้ที่ Novel-TT.

    รายชื่อตอน

    เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 506 เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

    บทที่ 506 เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

    การผ่าตัดแบบปาร์คส์เหมาะกับเคสกล้ามเนื้อหดรั้งภายหลังการขาดเลือดที่รุนแรง การผ่าตัดมีระดับความยากสูงมาก เงื่อนไขของแพทย์ผู้ผ่าตัดก็สูงมากเช่นกัน

    ถ้าการหดตัวของกล้ามเนื้อเกิดขึ้นภายในหกเดือนถึงหนึ่งปี รอจนการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาทมีการฟื้นตัวแล้ว ประสิทธิภาพการผ่าตัดก็จะดีที่สุด

    แต่ถ้าเป็นเด็กเล็ก ต้องรอให้มีการหดตัวของกล้ามเนื้อหนึ่งปีขึ้นไปขึ้นจะผ่าตัดได้

    ที่หวังอวี้ซานจะสื่อก็คือ ตอนนี้ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของเด็กแน่ชัด ดูจากผลการประสานตัว น่าจะบาดเจ็บมาเกินหนึ่งปีแล้ว

    พอนึกถึงตรงนี้ ทุกคนก็อดใจหายหนักกว่าเดิมไม่ได้ กระดูกแขนหักมาหนึ่งปี คนในครอบครัวไม่สนใจไยดีสักนิดเลยเหรอ

    แต่เฉินชางนึกขึ้นได้ว่าตรงนอกห้องห้องผ่าตัดตอนนี้ คนเดียวที่เป็นห่วงเด็กอาจจะเป็นคนเร่ร่อนคนนั้นกระมัง

    เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาก็ทอดถอนใจ

    ถ้าไม่ใช่เพราะบังเอิญมีพี่ใหญ่ทั้งกลุ่มอยู่ด้วย จะทำการผ่าตัดได้เหรอ

    ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาทำไม่ได้ ที่อันหยางมีใครทำได้บ้าง

    แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้

    หลังจากหารือกันไปรอบหนึ่ง วิธีการผ่าตัดแบบปาร์คส์ก็ทำให้ทุกคนยอมรับมาก!

    กู้หงเหมยสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วบอกว่า “เด็กยังเล็ก บางทีอาจฟื้นตัวได้ดีกว่าผู้ใหญ่!”

    หลังจากเตรียมการแล้ว ก่อนที่ผลทดสอบทางกายภาพเคมีจะออก หวังอวี้ซานก็มองเฉินชาง “เตรียมอุปกรณ์พยุงแบบไดนามิก เครื่องดึง ทางที่ดีขอแบบสำหรับแผนกศัลยกรรมมือโดยเฉพาะ”

    หลังจากเฉินชางได้ยินก็อดหน้าแดงเพราะความอายไม่ได้ ห้องผ่าตัดของพวกเขาเพิ่งสร้างขึ้นไม่นาน อาจจะยังไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เหล่านี้ไว้

    คิดไปคิดมา เฉินชางก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาศิษย์รองถานจงหลิน

    ไม่ง่ายเลยกว่าเด็กคนนี้จะได้กลับบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ ตอนนี้ถานจงหลินห่อเกี๊ยวอยู่กับภรรยาที่บ้าน หลังจากเห็นเฉินชางโทรมา เขาก็รีบรับสาย พอรู้ว่าเฉินชางต้องการอะไร เขาก็วางตะเกียบและเกี๊ยวในมือทันที สลัดแป้งออกจากตัวแล้วหันตัวเดินออกจากบ้าน

    พฤติกรรมนี้ทำให้ภรรยารังเกียจอยู่พักหนึ่ง ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่ามีสามีเป็นหมอแล้วจะลำบากขนาดนี้ ตอนนั้นเธอคงเลือกเหล่าเฮ่อที่เป็นข้าราชการไปแล้ว ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นผู้อำนวยการไปแล้ว!

    ภรรยาของเขาก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่ในฐานะคนในครอบครัวของหมอ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่สุขสันต์เท่าไรนัก

    อย่าไปคิดว่าถ้าหาสามีเป็นหมอ ในภายหลังเจ็บป่วยขึ้นมาแล้วจะไม่ต้องกังวล

    ความจริงแล้ว การที่คุณหาสามีเป็นหมอ คุณจะกังวลมากกว่า เพราะ…ตอนที่คุณป่วย เขาอาจไม่มีเวลามาดูแลคุณก็ได้

    แต่การประคับประคองกัน เข้าใจกัน เดินไปข้างหน้าด้วยกัน ระหว่างสามีภรรยาก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น เธอหันตัวมาตะโกนบอกถานจงหลิน “กลับมาเร็วๆ นะคะ ฉันจะเหลือเกี๊ยวไว้ให้คุณ”

    ถานจงหลินยิ้มแล้วหันตัวเดินออกไป ก้าวเท้าอย่างมั่นคงยิ่งขึ้น

    ……

    ……

    ในห้องผ่าตัด ผู้ที่ยืนอยู่ตรงสี่เหลี่ยมทองคำของผู้ป่วยก็คือหวังอวี้ซาน ทังจินโป ฉางหงเหล่ยและกู้หงเหมย

    พวกเขาสบตากันแวบหนึ่งแล้วพยักหน้าให้กัน!

    ในดวงตาเต็มไปด้วยความฮึกเหิม

    หลังจากผ่านไปยี่สิบปี ครั้งแรกที่พบกันก็มาปรากฎตัวอยู่บนเตียงผ่าตัด เตรียมทำการผ่าตัดที่สำคัญอย่างนี้แล้ว

    พวกเขาต่างก็รู้ว่านี่คือศึกหนัก และเป็นบททดสอบเช่นกัน

    หวังอวี้ซานมองทังจินโปแวบหนึ่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยปณิธานแห่งการต่อสู้ บางทีฉันควรจะทำให้นายเห็นสักหน่อยว่าหลายปีมานี้ฉันมีความก้าวหน้ายังไง!

    ทังจินโปเองก็ยิ้มเรียบๆ หลายปีมานี้ฝีมือฉันก็ไม่ตกเหมือนกัน

    ฉางหงเหล่ยกับกู้หงเหมยมองทั้งสอง พวกเธออดทอดถอนใจไม่ได้

    สันดอนขุดง่าย สันดานแก้ยาก เมื่อพบกันอีกครั้ง สองคนนี้ก็เป็นอย่างนี้อีกแล้ว

    ไม่มีใครยอมใคร!

    แต่ก็เพราะจิตวิญญาณนี้ ถึงทำให้หวังอวี้ซานกลายเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลไห่ตูซื่อลิ่ว และอาจจะกลายเป็นนักวิชาการอีกสมัยด้วย

    และทำให้ทังจินโปค้นคว้าวิธีการเย็บแบบทังและทฤษฎีการแบ่งเขตเส้นเอ็นยืดเหยียดของทังสำเร็จ กลายเป็นปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงทั้งในและนอกประเทศ

    การผ่าตัดเคสนี้ เป็นการทดสอบสำหรับทั้งสี่คน!

    หลังจากฉีดยาชาแล้ว หวังอวี้ซานก็ใช้มีดผ่าตัดกรีดเปิดกลางท้องแขนของผู้ป่วย…

    กู้หงเหมยยืนอยู่ด้านข้าง คอยห้ามเลือดอย่างชำนาญ ฉางหงเหล่ยเริ่มโยกย้ายผิวหนัง เนื่องจากเนื้อเยื่อเหลือค่อนข้างน้อยหลังจากขาดเลือด มีความยืดหยุ่นต่ำ เยื่อผังผืดส่วนลึกและกล้ามเนื้อตึง

    ผิวสมานตัวกันแน่นเกินไป ตอนลอกผิวหนังจึงยากมาก แต่ฝีมือของฉางหงเหล่ยที่ดูเผินๆ เหมือนเบาและว่องไวกลับซ่อนความละเอียดลึกซึ้งเอาไว้

    คนที่ดูอยู่รอบๆ อดปรบมือส่งเสียงเชียร์ไม่ได้!

    นี่ไม่ใช่การผ่าตัดที่ทำด้วยตัวคนเดียวได้ ต้องใช้หลายคนร่วมมือกัน ทั้งยังต้องควบคุมและจัดการรายละเอียดทุกขั้นตอนอย่างเข้มงวดด้วย

    “เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อไฟฟ้า!”

    “ลอกเนื้อเยื่อ!”

    “คีมแยก…”

    ……

    เป็นการผ่าตัดที่สามัคคีและมีระเบียบ แบ่งงานกันอย่างรอบคอบ ทุกคนล้วนแสดงบทบาทที่ไม่มีใครแทนที่ได้

    ทุกขั้นตอนการทำงานล้วนทำให้กลุ่มคนที่อยู่รอบข้างกล่าวชมไม่หยุดปาก!

    เป็นแพทย์หัวหน้าแผนกเหมือนกัน ถานจงหลินอดส่ายหน้าไม่ได้ บางครั้งก็ต้องยอมรับว่าแตกต่างกันชัดเจนมากจริงๆ

    สังเกตการหดตัวของกล้ามเนื้อ!

    ตรวจสอบส่วนที่เนื้อเยื่อตาย

    ตรวจสอบเส้นประสาทมีเดียน…เส้นประสาทอัลน่า…

    ……

    ……

    หวังอวี้ซานเป็นทหารกล้า ตีเมืองและยึดครองดินแดน ฝ่าห้าด่านสังหารหกขุนพล ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ตรงไหนที่ไปเยือน ตรงนั้นกระจ่างชัดเจน!

    และตอนนี้เอง หวังอวี้ซานมองทังจินโปแวบหนึ่ง

    ทังจินโปยิ้มบางๆ แล้วรับมีดผ่าตัดมา!

    ต่อมาก็ถึงเวลาของเขาแล้ว

    “ฟื้นฟูขอบเขตการทำงาน”

    ฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อ!

    ตัดและปลูกถ่ายเส้นเอ็นยืดนิ้ว

    เย็บกล้ามเนื้อเฟลกเซอร์ พอลิซิส ลองกัส[1]…

    จัดการกับเส้นเอ็นทุกเส้นได้อย่างพอเหมาะพอดี

    ทุกจุดที่เย็บล้วนล้ำเลิศ

    ตัดเส้นเอ็น ปลูกถ่ายเส้นเอ็น ผ่าตัดซ่อมแซมเส้นเอ็น!

    เขาเคลื่อนไหวมืออย่างง่ายดายราวกับหยิบของออกจากกระเป๋า

    หากหวังอวี้ซานเป็นทหารที่บุกเบิกดินแดนใหม่ ทังจินโปก็เป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นที่ปกครองประเทศให้ประชาชนอยู่อย่างผาสุก!

    การทำงานร่วมกันของทั้งสอง ทำให้การผ่าตัดทุกขั้นตอนยอดเยี่ยมไร้ที่เปรียบ

    เช่นเดียวกัน กู้หงเหมยกับฉางหงเหล่ยทำงานละเอียดมาก!

    ทุกขั้นตอนของการผ่าตัดเคสนี้ ราวกับเป็นดาราตัวท็อปมารวมตัวกัน ทุกคนล้วนกำลังพยายามเพื่อเป้าหมายเดียวกัน

    ไม่เจอกันยี่สิบปี เมื่อขึ้นเวทียังเป็นพี่น้อง

    จิตใจที่สื่อถึงกันได้กว่ายี่สิบปี ไม่เคยลืมเลือน

    การผ่าตัดของทั้งสี่ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบๆ มองจนเคลิบเคลิ้ม

    อะไรคือยอดฝีมือ

    อะไรคือตัวพ่อ!

    ก็นี่ไงล่ะ!

    เจียงเทากับหลี่อวี่ตัวสั่น กำลังคิดว่าตัวเองได้มายืนอยู่ข้างเตียงผ่าตัดอย่างอิสระเสรีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน!

    ส่วนเฉินชางจะไม่เกิดความอิจฉาได้อย่างไร

    นานมาก…

    นานมาก…

    การผ่าตัดจบลงแล้ว

    หลังจากเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างปลอดภัยแล้ว ทั้งสี่ก็สบตาและยิ้มให้กัน

    ผลลัพธ์นี้คือกระดาษคำตอบที่ดีที่สุดของพวกเขาในยี่สิบปีที่ผ่านมา!

    หวังอวี้ซานเงยหน้าจ้องทังจินโป อดพูดไม่ได้ว่า “จินโป นายเก่งจริงๆ”

    “นายคือหมอที่ผ่าตัดซ่อมมือได้ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา!”

    ทังจินโปก็มองหวังอวี้ซานตรงๆ เช่นกัน “ถ้าเป็นเรื่องระบบกระดูกมือ ฉันนับถือแค่นายเท่านั้น!”

    ในสายตาของทั้งสอง นี่ไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่าความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

    ทั้งสองล้วนไม่ใช่คนที่ยอมอยู่ข้างหลังคนอื่น

    ต่างก็ไม่อยากไปทำงานที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง

    แต่ในใจของพวกเขาต่างก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายเก่งมาก เยี่ยมมาก!

    ตอนนี้เอง เฉินชางได้ยินเสียงเตือนจากระบบแล้ว

    [ติ๊ง! คุณแก้ปมในใจรุ่นพี่สำเร็จ ได้เข้าอบรมทักษะระดับสมบูรณ์แบบหนึ่งรายการ: ผ่าตัดลบรอยแผลเป็น!]

    เฉินชางตะลึงทันที!

    เบิกตากว้างจ้องหนังสือทักษะสีทองด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

    ในใจตื่นเต้นมาก!

    [1] กล้ามเนื้อเฟลกเซอร์ พอลิซิส ลองกัส (อังกฤษ: flexor pollicis longus, FPL) เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ในปลายแขน (forearm) และมือ ทำหน้าที่งอนิ้วหัวแม่มือ

    คุณอาจจะชอบ

    Comments

    แสดงความคิดเห็น