เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 494 ผู้ชายบ้านฉันเก่งขนาดนี้!
Bookmark

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 494 ผู้ชายบ้านฉันเก่งขนาดนี้!

  • อ่านเรื่อง เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 494 ผู้ชายบ้านฉันเก่งขนาดนี้! ได้ที่ Novel-TT.

    รายชื่อตอน

    เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 494 ผู้ชายบ้านฉันเก่งขนาดนี้!

    บทที่ 494 ผู้ชายบ้านฉันเก่งขนาดนี้!

    สองวันนี้ฉินเสี้ยวยวนสดชื่นกระปรี้กระเป่ามาก แม้แต่เรื่องที่ลูกสาวเรียกเฉินชางว่า ‘ผู้อำนวยการเฉิน’ เขาก็ไม่ถือสาเช่นกัน!

    อย่างไรเสีย ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ!

    ในฐานะพ่อตาคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ!

    ความใจกว้างนี้เป็นสิ่งที่ควรจะมี

    เวลารับประทานอาหารตอนเช้าตรู่ จี้หรูอวิ๋นมองฉินเสี้ยวยวนด้วยสีหน้าประหลาดใจ “เหล่าฉิน เมื่อคืนคุณฝันเห็นอะไรล่ะ”

    พอฉินเยว่ได้ยินว่ามีเรื่องอะไรบางอย่าง ก็รีบเงี่ยหูรอฟังอย่างจริงจัง ตอนนี้โจ๊กในมือไม่หอมแล้ว

    พอฉินเสี้ยวยวนได้ยินคำถาม ก็ถามกลั้วหัวเราะว่า “ผมนอนละเมอเหรอ”

    จี้หรูอวิ๋นกลอกตา “เมื่อคืนคุณหัวเราะตั้งหลายครั้ง ทำให้ฉันตกใจตื่นตั้งหลายรอบ! ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่กับคุณมาหลายปี ฉันคงคิดว่าคุณมีโรคอะไรซ่อนอยู่แล้ว!”

    ฉินเสี้ยวยวนอดหัวเราะลั่นไม่ได้ “งั้นเหรอ ไอ๊หยา สองวันนี้ผมอารมณ์ดีไงล่ะ!”

    ไม่ผิดหรอก ตั้งแต่เฉินชางผ่าตัดมือให้ลูกชายของข่งเสียงหมินสำเร็จ ก็เหมือนจะมีเรื่องดีตามมาไม่หยุดหย่อน

    ถึงขั้นว่าปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า ตัวเองอาจได้เลื่อนขั้น หรือควบตำแหน่งอะไรสักอย่าง

    นี่คือเรื่องที่ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพเปิดเผยให้เขารู้!

    พอนึกถึงตรงนี้ ฉินเสี้ยวยวนก็ยิ่งรู้สึกว่าเสี่ยวเฉินทำให้พ่อตาเจริญจริงๆ

    ที่จริง แค่คุณสมบัติของเหล่าฉินอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว สิ่งที่ขาดไปก็มีเพียงภูมิหลังและพื้นฐานภายในเท่านั้น

    อย่างไรเสียตลอดเส้นทางที่เขาเดินมา ก็อาศัยบุคคลระดับสูงคอยช่วยเหลือเสมอ เขาที่เดิมทีมีพื้นเพชาติกำเนิดธรรมดา สองสามปีมานี้ประสบความสำเร็จได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว

    นึกไม่ถึงว่าปีนี้จะได้รู้จักกับผู้อำนวยการข่ง!

    ช่วงนี้ฉินเสี้ยวยวนไปที่แผนกศัลยกรรมกระดูกทุกสามวันห้าวัน ไปเยี่ยมข่งเจียฮุยวันแล้ววันเล่า เป็นห่วงมากกว่าพ่อของเขาเสียอีก

    ทั้งยังมีเรื่องของจูเซวียนเหวิน

    ช่วงนี้จูเซวียนเหวินมาหาตนเพื่อขอโทษ แต่ฉินเสี้ยวยวนไม่ยอมไปเจอเขาเลย

    กับคนประเภทนี้ จะเจอหรือไม่เจอก็ไม่ต่างอะไรกัน!

    ส่วนจูเซวียนเหวินก็ถึงขั้นมาขอโทษเสี่ยวหลินที่แผนกฉุกเฉินแล้ว

    เขาสร้างความรบกวนให้แผนกฉุกเฉินนิดหน่อย

    ทำเอาเสียวหลินตกใจจนหันตัวเดินหนี

    คนประเภทนี้รังแกคนที่อ่อนแกกว่าแต่กลัวคนที่แข็งแรงกว่า ทั้งยังไม่มีหลักการ ไม่มีขอบเขต

    หลังจากพ่อตารู้เรื่อง ก็โมโหจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

    จูเซวียนเหวินก็เหมือนจะออกจากมณฑลตงหยางไปแล้วจริงๆ

    หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ฉินเสี้ยวยวนก็เดินฮัมเพลงไปถึงตึกธุรการ ตอนที่เพิ่งจะลงลิฟท์ ก็พบว่ามีคนคนหนึ่งรออยู่ตรงประตู

    ฉินเสี้ยวยวนอึ้งทันที “เลขาถาน ทำไมวันนี้มาเช้าจัง”

    ถานลี่กั๋วตอบด้วยสิหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ “เหล่าฉิน คุณไม่มีน้ำใจ!”

    ฉินเสี้ยวยวนงงไปชั่วขณะ เมื่อเห็นสายตาที่แฝงไปด้วยความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมของถานลี่กั๋ว ก็เอ่ยถามทันทีว่า “ลองเล่ามา”

    หลังจากเล่าแล้ว ถานลี่กั๋วก็รีบถามว่า “เหล่าฉิน ผมดีกับคุณหรือเปล่า”

    พอฉินเสี้ยวยวนได้ยินคำถามนี้ก็อึ้งทันที คุณดีกับผมหรือเปล่า คุณจะไม่รู้อยู่แก่ใจได้ยังไง

    หลายปีมานี้แอบลอบกัดผมน้อยเสียที่ไหน

    แต่…ช่วงนี้เหมือนจะทำตัวไม่เลวเลย

    ฉินเสี้ยวยวนรู้สึกว่าไม่ควรซ้ำเติมกัน เมื่อเห็นเลขาถานมีท่าทางเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างนั้น ก็ตอบทันทีว่า “อืม คุณดีกับผมมาก!”

    ถานลี่กั๋วพอเห็นฉินเสี้ยวยวนก็รู้ทันทีว่าฝืนใจ!

    ถึงอย่างไรก็เป็นคู่ต่อสู้เก่า คู่หูเก่า ร่วมงานกันมาสิบปีได้แล้วมั้ง

    พูดแบบไม่น่าฟังก็คือ ถานลี่กั๋วรู้ใจฉินเสี้ยวยวนยิ่งกว่าจี้หรูอวิ๋นเสียอีก!

    เขาบอกทันทีว่า “เหล่าฉิน คุณไม่ต้องฝืนใจ วันนี้ผมตั้งใจจะมาคุยกับคุณสักหน่อย!”

    “ก่อนหน้านี้ผมก็ทำไม่ดีเหมือนกัน เรื่องนี้ผมทบทวนตัวเองมานานมากแล้ว…”

    ขณะที่ฟังคำพูดที่จริงใจของถานลี่กั๋ว เหล่าฉินก็งุนงงนิดหน่อย

    ช่วงนี้เป็นอะไรไปแล้ว…

    ถ้าทุกเรื่องราบรื่นก็ถือเป็นเรื่องดี แต่เหล่าฉินกลับรู้สึกเหมือนใช้ชีวิตอยู่ในฝัน!

    เมื่อเห็นว่าช่วงนี้คู่ต่อสู้เก่าชอบทำตัวหักมุมแบบร้อยแปดสิบองศา ฉินเสี้ยวยวนก็ยังปรับตัวไม่ค่อยได้

    นานมาก…ฉินเสี้ยวยวนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เฮ้อ …หลายปีแล้วมั้งที่ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแบบนี้

    ……

    ……

    เพราะช่วงนี้ แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองงานยุ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นเพราะสาเหตุอื่น!

    ผู้ป่วยเกี่ยวกับเส้นเอ็นนับวันยิ่งมีจำนวนมากขึ้น เรื่องนี้ย่อมทำให้เจียงเทามีความสุขขึ้นเยอะ

    อย่างไรเสีย ยิ่งมีเคสผ่าตัดเยอะ โอกาสแสดงฝีมือก็ยิ่งมาก

    แล้วกุญแจสำคัญที่สุดก็คือ แพทย์ที่มาทำหน้าที่เย็บเส้นเอ็นที่โรงพยาบาลอันดับสอง มีหลายคนที่ได้รับการแนะนำมาโดยผู้ที่มีความสามารถ ยกตัวอย่างเช่นญาติของหัวหน้ากรมอะไรสักอย่าง เพื่อนของผู้อำนวยการโรงพยาบาล เครือข่ายของหัวหน้าแผนกเป็นต้น…

    เรื่องนี้ทำให้เจียงเทาประหลาดใจมาก อย่าบอกนะว่า…แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองสร้างความลับบางอย่างที่บอกใครไม่ได้เอาไว้

    แต่หลังจากคนพวกนี้มาที่โรงพยาบาล ทุกคนก็เรียกหาแต่เฉินชาง เรื่องนี้ทำให้เจียงเทาฉงนใจมาก

    เป็นเพราะอะไรกันแน่

    อย่าบอกนะว่าเฉินชางมีจุดที่เหนือกว่าคนอื่นจริงๆ

    แล้วจุดที่เหนือกว่าคนอื่นคืออะไรกันแน่!

    แต่เขาก็ไม่เคยเห็นการผ่าตัดของเฉินชาง ส่วนใหญ่ล้วนเป็นอันเยี่ยนจวินที่เป็นผู้ช่วย ส่วนเขาเจียงเทาก็เป็นแค่คนโชคร้ายที่คอยเขียนประวัติคนไข้เท่านั้น

    พอนึกถึงตรงนี้ เจียงเทาก็ย่อมหงุดหงิดในใจ แต่ติดที่ความอยากรู้อยากเห็น เขาจึงอยากจะสืบดูสักหน่อย

    คนในห้องทำงานมีไม่เยอะ ทุกคนล้วนงานยุ่ง ฉินเยว่กำลังช่วยเฉินชางจัดเรียงข้อมูล

    มีประกาศยื่นขอเงินทุนวิจัยโครงการของมูลนิธิวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติปี 2020 ออกมาแล้ว

    ต้องส่งใบสมัครก่อนวันที่ 20 มีนาคม

    แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น เฉินชางต้องทำหัวข้อโครงการและทำงานวิจัยเบื้องต้นให้เสร็จก่อน เห็นได้ชัดว่าเขาอู้งานนี้ ฉินเยว่เป็นเหมือนสาวใช้ที่คอยวิ่งเต้นทำงานให้ แต่เธอจะทำงานให้เฉินชางเท่านั้น ไม่ว่าจะให้เธอทำอะไรเธอก็ยินดี ทั้งยังทำอย่างมีความสุขด้วย

    ไม่อย่างนั้นเมื่อถึงเวลาให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อเยื่อตรวจสอบก็จะไม่ผ่าน

    มูลนิธิวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติ ชื่อเต็มๆ ก็คือหัวข้อโครงการวิจัยของมูลนิธิวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (NSFC) หัวข้อโครงการจะถูกตรวจสอบและอนุมัติโดยกระทรวงเทคโนโลยี

    คนส่วนใหญ่อาจไม่รู้จักหัวข้อโครงการนี้เท่าไรนัก โดยทั่วไปเป็นหัวข้อโครงการระดับโรงพยาบาล โรงพยาบาลจะให้เงินทุนไปทำวิจัย แต่เป็นเงินทุนที่ไม่ค่อยสูงนัก ส่วนใหญ่ประมาณสองหมื่นถึงสามหมื่นหยวน

    จากนั้นก็เป็นเงินทุนหัวข้อวิจัยโครงการระดับเมือง หัวข้อวิจัยโครงการระดับมณฑล หัวข้อวิจัยโครงการระดับประเทศ โครงการวิจัยของมูลนิธิวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติ…เป็นต้น

    ถ้ายื่นขอเงินทุนโครงการของมูลนิธิวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติมาได้ ก็จะแสดงถึงความสามารถในการวิจัยของโรงพยาบาล

    เจียงเทาเบื่อหน่ายกับการเขียนประวัติคนไข้มาก จึงตัดสินใจจะไปคุยกับฉินเยว่สักหน่อย ช่วงนี้เหมือนท่าทีที่ฉินเยว่มีต่อตนจะอ่อนโยนขึ้นแล้ว เรื่องนี้ทำให้เจียงเทาหาคำตอบไม่ได้ว่าตอนแรกตัวเองพูดอะไรผิดไปกันแน่

    เจียงเทาอดถามไม่ได้ว่า “หมอฉิน หมอเฉินถนัดผ่าตัดอะไรที่สุด”

    พอพูดถึงเฉินชาง ฉินเยว่ก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที “หืม? คุณกำลังพูดถึงเฉินชางเหรอ”

    เจียงเทาพยักหน้า “ใช่แล้ว ผมเห็นเขาทำได้ทุกเคสผ่าตัด ตกลงหมอเฉินเก่งเรื่องอะไรกันแน่”

    พอฉินเยว่ได้ยินก็พึมพำในใจ นี่ยังต้องคิดอีกเหรอ

    เฉินชางเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าอยู่แล้ว!

    ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ เขาผ่าตัดได้ทุกอย่าง!

    “ไม่ว่าจะผ่าตัดอะไร เฉินชางก็ทำได้ดีมากทั้งนั้น!”

    คำตอบประโยคเดียวทำให้เจียงเทาตะลึงค้าง “ผมหมายถึงเฉินชางถนัดอะไรเป็นพิเศษ คุณรู้หรือเปล่า”

    พอฉินเยว่ได้ยินคำถามของเจียงเทา ปากก็พึมพำคำว่า เฉินชางถนัดอะไรเป็นพิเศษ…ถนัดเป็นพิเศษ

    พอคิดออกแล้ว…ฉินเยว่ก็ตาเป็นประกายทันที

    ฉันก็ต้องรู้อยู่แล้ว!

    แต่…เรื่องนี้บอกได้ด้วยเหรอ

    แน่นอนว่าบอกไม่ได้!

    ถ้าพูดออกไปแล้วคนอื่นรู้ความจริงจะทำยังไง!

    คิดไปคิดมา ฉินเยว่ก็ไม่ได้ตอบอีก เรื่องนี้จะพูดซี้ซั้วไม่ได้

    พอนึกถึงตรงนี้ เธอก็เลิกสนใจเจียงเทาเสียเลย

    ผู้ชายบ้านฉันเก่งขนาดนี้ ไม่ให้คนอื่นจ้องอยากได้หรอก ต่อให้เป็นผู้ชายด้วยกันก็ไม่เว้น!

    คุณอาจจะชอบ

    Comments

    แสดงความคิดเห็น